พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [10.สุภสูตร] สีลขันธ์
สุภมาณพโตเทยยบุตรบ้าง เมื่อข้าพเจ้ากล่าวอย่างนี้ ท่านพระอานนท์ตอบว่า วันนี้
ไม่เหมาะ ... เมื่อมีเวลาอาตมาจะเข้าไปเยี่ยม ข้าพเจ้าได้ดำเนินการให้ท่านพระ
อานนท์สละเวลามาฉันในวันพรุ่งนี้ด้วยเหตุดังว่ามานี้
[448] ครั้นล่วงราตรีนั้น ยามเช้า ท่านพระอานนท์ครองอันตรวาสก ถือ
บาตรและจีวร มีพระเจตกะเป็นปัจฉาสมณะ1 เข้าไปยังนิเวศน์ของสุภมาณพ-
โตเทยยบุตรแล้วนั่งบนอาสนะที่เขาปูไว้
สุภมาณพโตเทยยบุตรเข้าไปหาท่านพระอานนท์ สนทนากันพอคุ้นเคยดีแล้ว
นั่งลง ณ ที่สมควรแล้วถามว่า ท่านอานนท์เป็นพระอุปัฏฐาก อยู่เฝ้าใกล้ชิดเบื้อง
พระยุคลบาทของท่านพระโคดมมานาน ท่านอานนท์คงจะทราบธรรมที่ท่านพระโค
ดมตรัสสรรเสริญและทรงให้ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่ ท่านอานนท์ ธรรมเหล่า
ไหนหนอแลที่ท่านพระโคดมตรัสสรรเสริญและทรงให้ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่
[449] ท่านพระอานนท์ตอบว่า มาณพ พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญและ
ทรงให้ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่ในขันธ์ 3 แล ขันธ์ 3 อะไรบ้าง คือ อริยสีลขันธ์
อริยสมาธิขันธ์ และอริยปัญญาขันธ์ พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญและทรงให้
ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่ในขันธ์ 3 นี้แล
สีลขันธ์
[450] เขาถามว่า อริยสีลขันธ์ที่ท่านพระโคดมตรัสสรรเสริญและทรงให้
ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่เป็นอย่างไร ท่านอานนท์
ท่านพระอานนท์ตอบว่า มาณพ พระตถาคตเสด็จอุบัติขึ้นมาในโลกนี้ เป็น
พระอรหันต์ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ฯลฯ
พระองค์ทรงรู้แจ้งโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก ฯลฯ ทรงประกาศพรหมจรรย์
พร้อมทั้งอรรถและพยัญชนะบริสุทธิ์บริบูรณ์ครบถ้วน คหบดี บุตรคหบดีหรือ
อนุชน(คนผู้เกิดภายหลัง)ในตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ได้สดับธรรมนั้นแล้วเกิดศรัทธาใน